| W h a t i s A u t i s m ? Autism is a severe developmental disorder that begins at birth. Autistic children are perfectly normal in their appearance, mostly. What makes them different from others is the key characteristics which fall under Autism Spectrum Disorder (ASD) We use the word "Autism Spectrum Disorder" to describe a group of disorder including autism, Asperger syndrome or Pervasive Developmental Disorder (PDD). The characteristic can be vary, hence the term "spectrum" There is no known cure for ASD and it continues throughout life. An early diagnosis can help to put appropriate support into place for the children and their families. Early intervention is the key. The earlier, the better.
Symptoms of Autism
รูปจาก http://www.disabilitynews.org
|
ออทิสซึ่ม เป็นความผิดปรกติของระบบประสาท (Neurological Disorder) ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานของสมอง โดยเฉพาะด้านทักษะการสื่อสารและสังคม กลุ่มอาการนี้เรียกว่า The Triad of Impairments
อะไรคือ Triad of Impairments?
1.ความบกพร่องในการเข้าสังคม (Social interaction)
ไม่สนใจคนรอบข้าง, ชอบอยู่คนเดียว
(A person with autism may appear unresponsive to people,
appear to like being alone, has unusual or no eye contact.)
2.ความบกพร่องด้านการสื่อสาร (Social communication)
ไม่เข้าใจความหมายของท่าทางหรือการแสดงสีหน้า,น้ำเสียง
พูดซ้ำ้ในสิ่งที่ได้ยิน (parroting/echolalia)
(A person with autism may have little or no speech, use little gesture or facial expression, repeat words without understanding.)
3.ความบกพร่องในด้านการจินตนาการ (Social imagination)
ไม่เข้าใจสิ่งที่คนอื่นคิด หรือรู้สึก
จินตนาการไม่เป็น, ไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ได้
มีปัญหาเรื่องการปรับตัว
(S/he might pay little attention to the needs or feelings of others, lack of understanding of social rules, has difficulty coping with change.)
จากรูปลักษณ์ภายนอก เด็กออทิสติกดูไม่แตกต่างจากเด็กปรกติทั่วๆไป ผู้คนที่พบเห็นไม่อาจรู้ได้ถึงความผิดปรกตินี้ เมื่ออาการต่างๆแสดงออกมา คนทั่วไปกลับคิดว่า เด็กเหล่านี้เป็นเด็กซนร้ายกาจ ที่ชอบเอาแต่ใจตัวเอง และทำสิ่งแผลงๆเพื่อเรียกร้องความสนใจ ที่ร้ายไปกว่านั้น บ่อยครั้งที่สังคมโทษว่า การเลี้ยงดูที่บกพร่องเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กเป็นเช่นนี้
- - - - - - - - - - - - - - - - - -
Communication is an essential part of life.
Through communication we connect with others, make our wants known, share ideas and let others know how we feel.
For children with Autism Spectrum Disorder (ASD), communicating is just as important as it is for other kids. However, they face special challlenges because of their learning styles and sensory preferences, which often make interaction and communication difficult.
So what is communication?
Not just speech, of course. When one person sends a message to another person. They can be in many ways such as facial expressions, gestures or words. There are many different reasons for you to communicate like asking, protesting or sharing idea for example.
- - - - - - - - - - - - - - - - - -
| So....when can my child talk? เมื่อไหร่เขาจะพูดได้เสียที?
การพูดไม่ได้เป็นความสามารถที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดสำหรับคนทุกคน
การพัฒนาการของเด็กออทิสติก เป็นไปในลักษณะที่เรียกว่า Uneven skills นั่นก็คือ พวกเขาไม่ได้มีระดับการพัฒนาการไปตามวัยที่ควรจะเป็น ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกาย, สังคม หรือภาษา
ทักษะในด้านใดบ้างจำเป็นต้องมี ก่อนที่เขาจะ “พูด“ เป็น?(Pre-verbal skills of Language)
Eye contact -เขาต้องสามารถมองสบตาผู้ที่กำลังพูดอยู่กับเขา หรืออย่างน้อยก็มองไปยังทิศทางนั้นๆเมื่อถูกเรียก หรือเมื่อได้ยินเสียงพูดของผู้อื่น
Attention - เขาจะต้องสามารถเข้าร่วม และสามารถใช้เวลาอยู่กับกิจกรรมบางอย่าง ได้สักระยะหนึ่ง
Visual awareness - ความสามารถในการรับรู้และระลึกได้เมื่อมองเห็นสิ่งที่คุ้นเคย
Auditory awareness - ความสามารถในการรับรู้และระลึกได้เมื่อได้ยินเสียงรอบๆตัว
Imitation of actions - ความสามารถในการเลียนแบบท่าทางหรือการกระทำที่เขาได้เห็น
Imitation of sounds - ความสามารถในการเลียนแบบเสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงจากสิ่งรอบๆตัว, คำพูด, หรือลักษณะน้ำเสียง
Turn taking & interaction - การรู้จักแบ่งปัน, การรอให้ถึงคิวของตน โดยในขณะที่รอนั้น ต้องมีการแสดงออกว่ายังมีจิตใจจดจ่อกับสิ่งนั้นอยู่ด้วย
Awareness and control of the face and mouth muscles - ความสามารถในการใช้ลิ้น, ริมฝีปาก และขากรรไกรร่วมกันเพื่อการกินหรือเคี้ยวอย่างมีประสิทธิภาพ
- - - - - - - - - - - - - - - - -
Attention & Concentration skills are important for your child to learn from the activities s/he attending to. แต่ระดับความสามารถ Attention & Concentrationในเด็กแต่ละคนมีมากน้อยไม่เท่ากัน แม้แต่ชนิดของactivities ก็เป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้เขารู้สึกกระตือรือล้นหรืิอเฉยชา ต่อกิจกรรมต่างชนิดกัน 1. Good seating : การนั่งเก้าอี้โดยมีโต๊ะอยู่ข้างหน้า จะทำให้เขาสนใจ อยู่กับกิจกรรมตรงหน้าได้ดีกว่าการนั่งบนพื้น (also he will get a wilder field of vision) ความสูงของโต๊ะและเก้าอี้ จะต้องได้สัดส่วนกัน เมื่อนั่งลง เท้าทั้งสองจะต้องวางได้ระนาบไปกับพื้น (solid floor for stability) 2. Minimize distraction : ห้องหรือบริเวณนั้นๆจะต้องเป็นที่ที่เงียบสงบโดยธรรมชาติ (ไม่เลือกห้องที่อาจเกิดเสียงดังขึ้นมาอย่างกระทันหัน เช่นห้องที่อยู่ติดถนน) 3. No clutter : เก็บของที่ไม่จำเป็นออกจากโต๊ะให้เกลี้ยง อย่าให้อะไรมาเบี่ยงเบนความสนใจของเด็ก 4. One thing at a time : สอนที่ละอย่าง เมื่่อจบบทเรียนแล้ว ให้เก็บอุปกรณ์การสอน สำหรับบทเรียนนั้นๆออกไปจากโต๊ะเสียก่อนที่จะเริ่มบทเรียนใหมุ่ 5. You rule : คุณจะต้องเป็นคนควบคุุมเวลาของการเรียน ไม่จบบทเรียนเมื่อเด็กแสดงTemper tantrum เพราะนั่นจะเป็นการยืนยันว่า เมื่อไหร่ที่เขาแสดงอาการนั้นๆ เขาก็จะได้สิ่งที่ต้องการ (you will determine when to finish.) When want to extend the time, do it subtly by increase the length of activity by a couple of seconds at a time.)  |
- - - - - - - - - - - - - - - - - -
3rd April 2012
I've found an old e-mail to my student who had moved to another town.
This letter I found was written just a few weeks after he had left. I sent him some photos taken from my "Oh-so-chic" hand-phone at that time, the Nokia 7610.
Hey, I thought I was telling you about Ian ?!?
So here you are, the few last pict of him enjoying himself in our sand pit. I'll add something later when I recall more about those passed years.
 |
| Ian was pretending to be an orange cat, his fav pet. |
 |
| The next day, we went to the sandpit agin, here with Daniel and Theophilus. |
 |
| He is full of ideas and imaginations. Like his teacher? ;P |
No comments:
Post a Comment